เพื่อให้มีความปลอดภัยจาก hacker มาขึ้นซึ่งไฟล์config ssh ของ debian จะอยู่ใน /etc/ssh
ให้เราทำการพิมพ์ cd /etc/ssh/
จากนั้นให้ทำการแก้ไข ไฟล์config ของ ssh ดังนี้
พิมพ์ nano sshd_config
เป็นการใช้โปรแกรม nano คือโปรแกรมคล้าย notepad ใน linux ในการแก้ไขไฟล์ จะมีข้อความในไฟล์ config ซึ่งมีความหมายดังนี้
คำแนะนำในการปรับแต่งค่าต่างๆ ที่สำคัญในไฟล์ /etc/ssh/sshd_config ให้มีความปลอดภัย มีดังนี้
Port 22ระบุหมายเลขพอร์ตที่ใช้ในการติดต่อ โดยค่า default แล้วจะอยู่ที่พอร์ตที่ 22 แต่ถ้าแก้ไขให้ใช้พอร์ตอื่นก็จะสามารถหลอกแฮ็กเกอร์ที่อ่อนประสบการณ์ที่ได้รหัสผ่านแต่ก็ยังไม่ทราบพอร์ตได้ListenAddress 192.168.1.1ระบุหมายเลข IP ให้กับฝั่งเซิร์ฟเวอร์ว่าให้รอรับการติดต่อทาง IP ใด จะเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น ถ้าเครื่องเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวให้บริการไฟร์วอลล์ด้วยHostKey /etc/ssh/ssh_host_keyระบุไดเรกทอรีที่ใช้เก็บคีย์ private ของโฮสต์ServerKeyBits 1024ระบุจำนวนบิตที่จะใช้ในคีย์ของเซิร์ฟเวอร์ ซึ่ง default คือ 768 ให้ทำการแก้ไขเป็น 1024LoginGraceTime 600ระบุเวลาในหน่วยวินาทีหลังจากมีการร้องขอการติดต่อจากไคลเอ็นต์จนกระทั่งสิ้นสุดการติดต่อโดยที่ยังไม่มีการ LoginKeyRegenerationInterval 3600ระบุอายุของคีย์ หรือระยะเวลาเป็นวินาทีที่จะสร้างคีย์ใหม่ โดยค่า default อยู่ที่ 3600PermitRootLogin noระบุว่าอนุญาตให้ accout ของ root ทำการ login เข้าระบบได้โดยตรงหรือไม่ ให้เปลี่ยนเป็น noIgnoreRhosts yesระบุไม่อนุญาตให้ใช้ไฟล์ rhosts หรือ shosts สำหรับการ authenticateStrictModes yesก่อนที่จะมีการอนุญาตให้ Login เข้ามาในระบบได้ sshd จะตรวจสอบ permission ในไดเรกทอรี home ของผู้ใช้แต่ละคน และไฟล์ rhosts ก่อน ดังนั้นออปชันนี้ให้เลือก yes เพราะบางครั้งผู้ใช้บางคนอาจจะเปลี่ยนแปลง permission ให้ผู้อื่นสามารถเขียนได้โดยไม่เจตนาPrintMotd yesระบุให้ sshd แสดงข้อความที่อยู่ในไฟล์ /etc/motd เมื่อมีผู้ใช้งานระบบทำการ Login ซึ่งไฟล์ /etc/motd นั้นรู้จักกันในชื่อของ “message of the day”RhostsAuthentication noระบุให้ sshd สามารถที่จะใช้ rhosts ในการ authenticate ได้ แนะนำว่าไม่ควรที่จะใช้เพราะว่า rhosts นั้นไม่มีความปลอดภัยRhostsRSAAuthentication noระบุว่าจะให้สามารถใช้ rhosts ร่วมกับ RSA ในการ authenticate ได้หรือไม่RSAAuthentication yesระบุว่าให้ใช้ RSA ในการ Authenticate โดย RSA จะใช้คีย์คู่ทั้ง public และ private ที่ถูกสร้างโดย ssh-keygen1utility ในกระบวนการ AuthenticatePasswordAuthentication yesระบุว่าให้ใช้รหัสผ่านในการทำ AuthenticatePermitEmptyPasswords noระบุว่าจะอนุญาตให้ Login โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือไม่ ให้เลือก no เพื่อบังคับให้ป้อนรหัสผ่านทุกครั้งAllowUsers adminระบุว่าจะอนุญาตให้ใคร Login ได้บ้าง โดยค่า default แล้วจะอนุญาตให้ทุกคนสามารถ Login เข้าระบบได้ และสามารถเพิ่มชื่อผู้ใช้ที่อนุญาตได้หลายคน โดยแยกแต่ละชื่อด้วยเครื่องหมายช่องว่างหรือ spaceSubsystem sftp /usr/libexec/openssh/sftp-serverระบุให้ใช้ sftp โดยค่า default จะอนุญาตอยู่แล้วCredit : http://www.thaicert.nectec.or.th
No comments:
Post a Comment